ฟุตบอลลีกเยาวชนแห่งชาติ ไทยแลนด์ยูธลีก รุ่นอายุไม่เกิน13ปี ฤดูกาล2018-2019 รอบชิงแชมป์ประเทศ ที่จังหวัด เชียงราย เมื่อวันพุธที่10 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่สนามกีฬากลางจังหวัดเชียงราย ในรอบ8ทีมสุดท้าย 

 

    คู่แรกเวลา 15.30น.น. อัสสัมชัญยูไนเต็ด อันดับ1ของกลุ่มC ในเสื้อเทาสลับดำ พบ เชียงใหม่เอฟซี อันดับ2ของกลุ่มD ในเสื้อชุดสีน้ำเงิน ทำการแข่งขันครึ่งละ35 นาที ท่ามกลางแฟนบอลที่เข้ามาชมเกมนี้ค่อนข้างหนาตา 

 

   ครึ่งแรก อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ที่เกมนี้ส่งนักเตะดีกรีเยาวชนทีมชาติ ลงเกือบยกทีม เป็นฝ่ายคุมจังหวะได้ดีกว่า ใช้การต่อบอลบนพื้นตามสไตลส์ แต่นาทีที่11 เป็น เชียงใหม่ฯ ที่ได้ลุ้นใกล้เคียงก่อน อาร์มินทร์ เดอะมุงค์ กองหน้าตัวเป้าของทีมได้หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษแต่ซัดหลุดกรอบไปแบบได้ลุ้น จากนั้นเกมยังคงเป็น อัสสัมชัญฯที่ครองบอลเปิดเกมบุกได้ต่อเนื่อง ขณะที่ เชียงใหม่ฯ เน้นเกมรับเหนียวแน่น รอดักจังหวะสวนกลับด้วยบอลยาวให้กองหน้าที่มีความเร็วคอยตอบโต้ 

 

    นาที20 อัสสัมชัญยูไนเต็ด น่าได้ประตูขึ้นนำ สิรดนัย โพธิ์ศรี ได้ซัดเหน่งบริเวณจุดโทษ แต่ ธีรกานต์ คำบุ้ง นายด่านเชียงใหม่พุ่งปัดออกหลังไว้ได้แบบเหลือเชื่อ จากนั้น อัสสัมชัญที่ขึงเกมบุกอยู่ฝ่ายเดียว พยายามหาทางทำประตูขึ้นนำให้ได้แต่ยังจบสกอร์ไม่ได้ จบครึ่งแรกยังเสมอกัน0-0

 

    ครึ่งหลัง นาที42 อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ส่ง องศา สิงห์ทอง ลูกชาย อิศวะ สิงห์ทอง อดีตกองกลางทีมชาติไทย ลงเติมเกมรุกทางฝั่งซ้าย แทน ธนพล ทิพย์จรูญ ที่มีอาการบาดเจ็บ นาที45 องศา สิงห์ทอง ตั้งป้อมเปิดจากปีกซ้าย เข้าเขตโทษ อัษฎา หอมหวน กองหน้าตัวเก่งโฉบมาโขกข้ามคานออกไปนิดเดียว แต่นาทีที่51 อัสสัมชัญฯ ที่บุกอยู่ มาได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ กฤตภัค แสงสวัสดิ์ กองกลางตัวเก่งที่เพิ่งถูกส่งลงมา เปิดบอลจากกราบซ้ายบอลโค้งเข้าเขตโทษ อัษฎา หอมหวน โหม่งเข้าประตูไป 

 

และนาที56 อัสสัมชัญฯ เกือบหนีเป็น2-0 จากจังหวะสวนกลับเร็ว ธิติวุฒิ ขวัญมีชัยชนะ แทงทะลุช่องให้ อัษฎา หอมหวน สปีดหนีแนวรับ เชียงใหม่ฯ และแตะหลบ นายด่าน เชียงใหม่ฯ ก่อนตวัดยิงในจังหวะแรกบอลหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย และในนาทีที่ 67 อัสสัมชัญฯ มาได้ประตูหนีเป็น2-0 จากการกลับตัวยิงนอกกรอบอย่างสุดสวยของ องศา สิงห์ทอง ลูกชาย อิศวะ สิงห์ทอง 

 

    และจบเกม อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ชนะ เชียงใหม่ เอฟซี 2-0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศตามความคาดหมาย โดยจะเข้าไปพบกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด วันที่ 12 ก.ค.นี้ เวลา15.30น.

 

    คู่ต่อมา ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด อันดับ1ของกลุ่ม ดี พบ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี อันดับ2ของกลุ่ม ซี ครึ่งแรก เล่นมาได้เพียง 3 นาที เป็น ราชบุรี มิตรผลฯ ออกนำก่อน1-0 จากการเอี้ยวตัวยิงด้วยซ้ายในเขตโทษของ ณัฐพล กิจพนาพร บอลเบียดเสาเข้าไปอย่างสวยงาม แต่นาทีเดียว ทรู แบงค็อก ตีเสมอ1-1 จากบอลจากกราบซ้าย กมลชัย ใสปัน เปิดโค้งเข้าเขตโทษ ณพัฐภ์ กุตนันท์ กองหน้าร่างโย่งตัวเก่งขึ้นเทกตัวโหม่งบอลไปแฉลบกองหลัง ราชบุรี มิตรผล เปลี่ยนทางเข้าประตูไป พร้แมจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว

 

ครึ่งหลัง ทรู แบงค็อกฯ เปิดเกมบุกมากขึ้น และในนาที39 มาได้ประตูแซงนำ 2-1 จากจังหวะที่ ณพัฐภ์ กุตนันท์ ได้บอลในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนซัดเรียดด้วยซ้ายบอลพุ่งเสียบเสาสองเข้าไป นาที 47 ทรู แบงค็อกฯ ส่ง ซุนตะ อาเซกาเวะ กองหน้าเชื้อสายญี่ปุ่นลงสนาม แทน กมลชัย ใสปัน ในแนวรุก แต่นาทีที่50 ราชบุรี มิตรผล ตีเสมอ2-2 จากการเช็กล้ำหน้าพลาดของแนวรับ ทรูแบงค็อกฯ ปภาวิชญ์ ต่ออ่อน ดาวยิงตัวเก่ง เอียงตัวแปโล่งๆเสียบหน้าต่างเข้าไป และจบเกม เสมอกัน2-2 ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ และเป็น ทรูแบงค็อกฯ ยิงแม่นกว่า เอาชนะ ราชบุรีมิตรผลฯ ไปได้8-7 ทำให้ ทรู แบงค็อกฯ เข้าไปพบกับ บุรีรัมย์ยูไนเต็ด วันที่ 12 ก.ค.นี้ เวลา17.30น.