วานา นาวา หัวหิน ซิตี้ 1-4 อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด

 
         การแข่งฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทย ยู 19 รายการ "โค้กคัพ" ครั้งที่ 19 รอบคัดเลือกกลุ่ม 4 โซนภาคตะวันตก รอบรองชนะเลิศ ที่สนาม ม.กรุงเทพธนบุรี เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา คู่แรกเป็นการพบกันระหว่าง "เรือใบสีขาว" วานา นาวา หัวหิน ซิตี้ ทีมอันดับ 1 ของสาย เอ ลงสนามพบกับ "กิเลนเจ้าสัว" อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 1 ของสาย ซี

 
         โดย 11 ตัวจริงของวานา นาวา หัวหิน ซิตี้ ประกอบด้วย ณัชพล เดชุวัน, กิตติเดช จันทรโคตร, พงศ์ภัค กิจหว่าง, เกียรติศักดิ์ สมวาจา, วิรินทร ทองแท้, วงศกร บริสุทธิ์, ศุภโชค ทองศรีนวล, สหภาพ ศรีนาดี, อำนาจ นิโคลัสเมอร์ฟี่, กฤชนันต์ นาราช และ เอริค ตาแลง

 
         ขณะที่ 11 ตัวจริงของอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ประกอบด้วย พีรพงศ์ ศรีนอก, สุประวีร์ มีประทัง, ชาติชาย แสงดาว, ชินภัทร ลีเอาะ, พีรพงศ์ ปัญญนุมาภรณ์, ปฏิภาณ ปิ่นเสริมสูตรศรี, พิชา อุทรา, ซุง กิล, อภิสิทธิ์ มีพันธ์, เรืองยศ จันชัยชิต และ ภูมินทร์ แก้วตา

 
         น.2 เป็นทางอัสสัมชัญได้ทักทายก่อนจากจังหวะขึ้นเกมกลางสนามก่อนแทงให้ ภูมินทร์ แก้วตา ลากเดี่ยวไปดวลกับผู้รักษาประตู ยิงด้วยขวาบอลเฉียดเสาไกลออกไปพลาดโอกาสขึ้นนำ มาถึง น.14 ทางอัสสัมชัญขึ้นเกมทางกราบซ้ายโดยพีรพงศ์กระชากยาวก่อนโยนโค้งไซ้ก้อยมาให้พิชา แต่ถูกผู้รักษาประตูออกมาตัดไว้ได้ แต่บอลยังไปเข้าทาง ปฏิภาณ ปิ่นเสริมสูตรศรี ที่ดักรออยู่แปใส่ประตูโล่งๆ ไม่พลาด อัสสัญชัญขึ้นนำ 1-0

 
         หลังจากนั้นทางหัวหินพยายามเปิดเกมรุกใส่แต่ไม่สามารถเจาะแผงหลังของอัสสัมชัญได้ จนมาถึง น.30 อัสสัมชัญขึ้นเกมทางฝั่งซ้ายก่อนโยนเข้ามาให้กับพีรพงศ์โหม่งตั้งให้กับปฏิภาณคนเดิมซัดด้วยขวาเต็มข้อตุงตาข่าย อัสสัมชัญทิ้งห่าง 2-0 หลังจากนั้นเพียง 2 นาทีเป็นฝั่งหัวหินเล่นเกมสวนกลับก่อนแทงยาวขึ้นหน้าให้กับกฤชนันต์หลุดเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับ พีรพงศ์ ศรีนอก นายทวารอัสสัมชัญ ก่อนยิงด้วยขวาบอลเสียบมุมไปอย่างสวยงาม วานา นาวา หัวหิน ซิตี้ไล่ขึ้นมา 1-2 มาถึงช่วงท้ายครึ่งแรก น.41 เป็นอัสสัมชัญขยับไปเป็น 3-1 จากจังหวะขึ้นเกมทางด้านขวาโดยภูมินทร์กระชากยาวขึ้นมาก่อนเปิดโค้งเข้ากลาง และเป็น พีรพงศ์ ปัญญนุมาภรณ์ มาตามนัดซัดจ่อๆ ไม่เหลือ และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

 
         ครึ่งหลังเริ่มมาเพียง 3 นาทีเป็นทางอัสสัมชัญได้ประตูทิ้งห่างไป 4-1 จากจังหวะที่ สุประวีร์ มีประทัง ได้เล่นลูกฟรีคิกเปิดด้วยซ้ายเข้ามา และเป็น พีรพงศ์ ปัญญนุมาภรณ์ เทกขึ้นโขกเต็มศีรษะไม่เหลือและเป็นประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้

 
         หัวหินพยายามจะเจาะเกมรับทางฝั่งอัสสัมชัญ มีโอกาสอยู่สองถึงสามครั้งแต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ น.79 ทางอัสสัมชัญโต้กลับเร็วโดยการประสานงานของสองตัวสำรอง สีหนาท สุทธิศักดิ์ ขึ้นมาทางฝั่งซ้ายตบเข้ากลางให้กับ ณัฐพสุตม์ มะลิซ้อน ก่อนยิงด้วยขวาบอลพุ่งเฉียดเสาออกไปนิดเดียว หลังจากนั้นทั้งคู่ไม่สามารถทำอะไรกันได้ จบเกมอัสสัมชัญ ยูไนเต็ดไล่ต้อนวานา นาวา หัวหิน ซิตี้ ไป 4-1 ส่งผลให้อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ตบเท้าสู่รอบชิงชนะเลิศเป็นทีมแรก

 
         แมน ออฟ เดอะ แมตช์ - พีรพงศ์ ปัญญนุมาภรณ์ (อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด)

 

สมุทรสาคร มิตรผล 3-1 สมุทรสงคราม บีทียู เอฟซี

 
         คู่สองเป็นการพบกันระหว่าง "สำเภามหาชัย" สมุทรสาคร มิตรผล ทีมอันดับ 1 ของสาย บี ลงสนามดวลกับเจ้าภาพ "ปลาทูคะนอง" สมุทรสงคราม บีทียู เอฟซี ทีมอันดับ 2 ของสาย ซี โดย 11 ตัวจริงของสมุทรสาคร มิตรผลประกอบด้วย สิวะพงศ์ พานนแก้ว, กรกวี ฉวี่บริสุทธิ์, ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์, นฤพล ภูมิมาศ, อภิศักดิ์ ซอสูงเนิน, อรรถวิท สุขช่วย, อำนาจ ภมรประเสริฐ, วีรชัย ชูจันทร์, ศิวรุต ผลหิรัญ, ภานุพงศ์ จันทร์หอม และ เตชธร สีหะวงษ์

 
         ขณะที่ 11 ตัวจริงของสมุทรสงคราม บีทียู เอฟซี ประกอบด้วย เอกอมร เก่งเขตวิทย์, ศิวดล พุทธลา, ภาวิช ดวงแก้ว, ภูมิพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา, ฤทธิรงค์ เผื่อนปฐม, อภินันท์ จันทะเพชร, ธีรพัฒน์ มุใหม่, สุชยา เขิมมา, นนทวัฒน์ กลิ่นจำปาศรี, ศูภณัฐ จิตตยะโสธร และ รชตะ สมพร

 
         เริ่มเกมเป็นทางฝั่งสมุทรสาครได้โอกาสทักทายก่อนใน น.9 จากจังหวะเล่นลูกเตะมุมโดยอรรถวิทโยนโค้งเข้ามา และเป็นปวีร์สอดขึ้นมาโหม่งบอลเหินข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย หลังจากนั้นเพียง 2 นาทีสมุทรสงครามได้ตอบโต้จากจังหวะโยนบอลเข้ากลางและถูกกองหลังของสมุทรสาครโหม่งสกัดออกมาได้ แต่บอลยังมาเข้าทางของธีรพัฒน์ซัดด้วยซ้ายเต็มข้อบอลพุ่งออกเสาแรกไปนิดเดียว พลาดโอกาสขึ้นนำ

 
         จนกระทั่งท้ายครึ่งแรกเป็นทางกองเชียร์สมุทรสาครได้เฮก่อน จากจังหวะขึ้นเกมทางแดนกลางโดยอรรถวิทก่อนโยนขึ้นหน้าไป กองหลังเจ้าถิ่นเตะบอลพลาดไปเข้าทาง ศิวรุต ผลหิรัญ ลากเข้าไปกดด้วยขวาบอลพุ่งเสียบมุมเป็นประตูขึ้นนำให้กับสมุทรสาคร มิตรผล 1-0 หลังจากนั้นผู้ตัดสินเป่าจบครึ่งแรกทันที

 
         ครึ่งหลังทางฝั่งสมุทรสงครามพยายามเปิดเกมรุกเข้าใส่หวังจะทำประตูตีเสมอให้ได้ โดยปรับแผนการเล่นใช้กองหน้า 3 คนแต่ก็ยังไม่สามารถเจาะเกมรับของสมุทรสาครได้ จนมาถึง น.65 สมุทรสาคร มิตรผลนำห่าง 2-0 จากจังหวะโต้กลับขึ้นมาเป็นทาง ธนาธิป ขันทอง ตัวสำรองได้โอกาสลากเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนถูกทางอภินันท์เข้าเสียบจากด้านข้างผู้ตัดสินไม่ลังเลเป่าเป็นจุดโทษ และเป็น อรรถวิท สุขช่วย รับหน้าที่เป็นมือสังหารไม่พลาด กดด้วยขวาเข้ากลางประตู

 
         หลังจากนั้น น.69 กองเชียร์เจ้าภาพได้เฮบ้างจากจังหวะขึ้นเกมทางฝั่งซ้ายโดย วชรภูมิ บุญแหยม ก่อนตัดเข้ากลางมาและกดด้วยขวา บอลพุ่งเสียบเสาแรกอย่างสวยงาม สมุทรสงครามไล่มาเป็น 1-2 มาถึง น.78 ขุนพลสำเภามหาชัยได้ดับความฝันของกองเชียร์ปลาทูคะนองจากจังหวะขึ้นเกมสวนกลับทางฝั่งขวาโดยอรรถวิท ก่อนตบเข้ากลางมา และเป็นศิวรุตวิ่งเข้าชาจไม่เหลือ สมุทรสาครนำห่างอีกครั้ง 3-1 หลังจากนั้นทำอะไรกันต่อไม่ได้ จบเกมสมุทรสาคร มิตรผลเอาชนะสมุทรสงคราม บีทียู เอฟซี 3-1 ทำให้สมุทรสาคร มิตรผลจะเข้าไปชิงชนะเลิศกับอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด เวลา 15.00 น. ที่สนาม ม.กรุงเทพธนบุรี

 
         แมน ออฟ เดอะ แมตช์ - อรรถวิท สุขช่วย (สมุทรสาคร มิตรผล)