
โครงการ ''ช้าง ซอคเก้อร์ สกูล 2014'' ได้แล้ว 12 นักเตะเยาวชนฝีเท้าดีเข้าร่วมชายคา '' กิเลนเจ้าสัว'' อัสสัมชัญธนบุรี หลังจากที่มีการเดินสายคัดตัวทั่วประเทศจนเหลือ 40 คนสุดท้าย และมีการคัดอีกรอบเพื่อหาที่ดีที่สุด 12 คน โดยคนที่ผ่านการคัดตัวจะได้เข้าเรียนต่อที่อัสสัมชัญธนบุรีจนถึงชั้น ม.6 และจะได้เป็นนักเตะอะคาเดมี่โรงเรียน โดยทางด้าน ภาราดร ดร.วีระยุทธ บุญพราหมณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียน เชื่อว่าผู้ที่ผ่านเข้ารอบจะสามารถพัฒนาฝีเท้าและเป็นนักฟุตบอลอาชีพในอนาคตได้ พร้อมให้กำลังใจนักเตะที่ไม่ผ่านอย่าเพิ่งทิ้งฝัน ยกตัวอย่าง ''เมสซี่เจ'' ชนาธิป สรงกระสินธ์ ดาวดังทีมชาติที่ไม่ผ่านการคัดตัวกับอัสสัมชัญธนบุรี แต่สุดท้ายก็สามารถสร้างชื่อเป็นนักเตะชั้นนำของเมืองไทยได้ ขณะที่ทางด้าน มันทนา ประไพเพ็ชร ผู้จัดการ อาวุโส บ.ไทยเบฟเวอร์เรจ ผู้สนับสนุนหลัก ยืนยันพร้อมทำโครงการนี้ต่อเรื่อยๆ เพื่อช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลไทยให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
ด้าน ''กิเลนเจ้าสัว'' อัสสัมชัญธนบุรี หลังจากที่นำ 40 แข้งที่ผ่านการคัดเลือกในโครงการ '' ช้าง ซอคเก้อร์ สกูล 2014'' โดยการตระเวนเปิดคัดนักเตะเยาวชนที่มีอายุไม่เกิน 10 ปี จาก 4 ภาคของไทยเพื่อเข้าเก็บตัว 2 สัปดาห์ก่อนที่จะมีการคัดเลือกให้เหลือ 10 คนสุดท้าย เพื่อเข้าเป็นเด็กฝึกอะคาเดมี่และศึกษาต่อในรั้วอัสสัมชัญธนบุรีจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยก่อนหน้านี้ทางด้าน '' เสี่ยโต'' ณรงค์วิทย์ อุ่นแสงจันทร์ ผอ.โครงการช้างเผือกโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี ได้นำนักเตะทั้งหมดเข้าขอบคุณผู้ให้การสนับุสนุนโครงการ คือ บ.ช้าง, เอฟบีที, และสยามกีฬา และล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 58 ที่ผ่านมาก็มีการคัดตัวรอบสุดท้ายเพื่อเฟ้นหา 10 คนที่ดีที่สุด โดยมีทางด้าน ''บิ๊กโต้ง'' กิตติรัตน์ ณ ระนอง, '' เสี่ยโต'' ณรงค์วิทย์ อุ่นแสงจันทร์, ภาราดร ดร.วีระยุทธ บุญพราหมณ์ ผอ.โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี, มันทนา ประไพเพ็ชร ผู้จัดการอาวุโส บ.ไทยเบฟเวอเรจ และ ''มาสเซอร์เจี๊ยบ'' เนติ สูนยะไกร เป็นคณะกรรมการในการคัดเลือก
สำหรับการคัดเลือกในรอบสุดท้ายเริ่มคัดตั้งแต่เวลา 13.00 น. โดยแบ่งผู้เล่นออกเป็นสองทีมเพื่อทำการแข่งขันและคัดสรรนักเตะอย่างละเอียดทีละตำแหน่ง เนื่องจากนักเตะมีฝีเท้าที่ใกล้คียงกัน และฝีเท้าดีหลายคน ดังนั้นทาง ภาราดร ดร.วีระยุทธ บุญพราหมณ์ ผอ.โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี จึงมีการเพิ่มโควตาให้อีก 2 คนรวมคัดเอานักเตะทั้งสิ้น 12 ราย และที่ผ่านการคัดตัวประกอบไปด้วย
1. สิทธา บุญหล้า (สุราษฎร์ธานี)
2. โอลุวะเฟมี อนพัช โยเซฟ อาเช่ (สุราษฎร์ธานี)
3. ดนุพล โสถาพ (สุราษฎร์ธานี)
4. นันทพัฒน์ สุคนธา (นครราชสีมา)
5. กฤติน ดำสำราญ (นครราชสีมา)
6. กษิดิ์เดช รุ่งกิจวัฒนานุกูล (นครราชสีมา)
7. อนุชา โสมณวัตร์ (นครราชสีมา)
8. คคนะ คำยก (นครราชสีมา)
9. ภาคภูมิ ขุนคงมี (เชียงใหม่)
10. อรรถพล แสงทอง (เชียงใหม่)
11. เจตติพัทธ์ วงษ์ยี่ (กรุงเทพฯ)
12. ชินวัตร อุดมวรรณ (กรุงเทพฯ)
โดยทางด้าน ภาราดร ดร.วีระยุทธ บุญพราหมณ์ ผอ.โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี ออกมากล่าวถึงนักเตะที่ผ่านเข้ารอบและพูดถึงน้องที่ไม่ผ่านการคัดเลือกว่า ''ก่อนอื่นต้องขอแสดงความดีใจกับเยาวชนและผู้ปกครองของน้องๆ ที่ผ่านการคัดเลือก เพราะเด็กๆ ที่คัดมานี้ฝีเท้าใกล้เคียงกันมาก สำหรับคนที่ผ่านเข้าโครงการนี้จากนี้จะได้รับการฝึกฝนเพื่อพัฒนาตัวเองให้เป็นนักกีฬาอาชีพและเพื่อทีมชาติต่อไป อยากให้ทุกคนมุ่งมั่นและเตรียมตัวให้พร้อม ส่วนคนที่ไม่ผ่านการคัดเลือกก็อย่าถอดใจยังมีเวทีอื่นให้เข้าทดสอบฝีเท้าเส้นทางยังอีกยาวไกล ขอเพียงมีความมุ่งมั่น เชื่อว่าไม่นานจะได้เป็นนักกีฬาที่ดีและจะได้เล่นฟุตบอลอาชีพอย่างที่หวังเอาไว้แน่นอน ยกตัวอย่าง ''เมสซี่เจ'' ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่มาคัดตัวกับเราแล้วไม่ผ่านสุดท้ายก็ยังมุ่งมั่นจนได้เป็นนักเตะทีมชาติและเป็นที่รู้จักทั่วประเทศ''
ขณะที่ทางด้าน ''บิ๊กโต้ง'' กิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานสโมสรอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการคัดเลือกกล่าวถึงนักเตะที่ผ่านการตัดตัวว่า ''อย่างที่รู้ว่าอัสสัมชัญธนบุรีเรามีโครงการการช้างเผือกที่สร้างเยาวชนฝีเท้าดีและติดทีมชาติมาแล้วมากมาย อย่างเช่น กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ หรือ ธีราทร บุญมาทัน และอีกหลายคน ซึ่งนักเตะเหล่านี้ก็มาจากโครงการและมาอยู่กับทีมตั้งแต่ระดับประถม ปีนี้เราได้มีการคัดเลือกจากทั่วประเทศจนกระทั่งถึงวันนี้ได้มีการตัดตัวให้เหลือเพียงแค่ 12 คน เชื่อว่าทั้ง 40 คนที่ผ่านการคัดตัวมาถึงรอบนี้มีอนาคตทุกคน ส่วนคนที่ผ่านการคัดตัว 12 คนก็จะเข้ามาอยู่รวมกับรุ่นพี่อีกประมาณร้อยคนและได้ศึกษาที่โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี จนกระทั่งถึง ม.6 และจะได้รับการฝึกฝนที่ดี เชื่อว่าถ้ามีความมุ่งมั่น น่าจะเป็นนักเตะที่มีคุณภาพและมีชื่อเสียงในระดับประเทศได้ในอนาคต ดังนั้นจึงขอแสดงความดีใจกับที่ผ่านเข้ารอบ ส่วนที่ไม่ได้รับการคัดเลือกก็อย่าท้อ''
ส่วนทางด้าน มันทนา ประไพเพ็ชร ผู้จัดการ อาวุโส บ.ไทยเบฟเวอร์เรจ ซึ่งเป็นผู้ให้การสนับสนุนหลัก กล่าวถึงโครงการนี้ว่า ''อย่างที่รู้ว่า บ.ช้างเราให้การสนับสนุนเรื่องของกีฬาฟุตบอลอยู่แล้ว ดังนั้นโครงการนี้จึงถือเป็นโครงการที่ดี และยินดีที่จะร่วมมือกับทางอัสสัมชัญธนบุรี ทำโครงการนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลไทยต่อไป และต้องขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ผ่านการคัดตัวทั้ง 12 คน และอยากให้มุ่งมั่นเพื่ออนาคตที่ดีของตัวเองต่อไป''



.jpg)






ที่มา
|